top of page

การผงาดขึ้นของจีนในฐานะ "มหาอำนาจด้าน AI"

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลกับโลกเราอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา ทำให้นึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “AI Superpowers: China, Silicon Valley, and the New World Order” ซึ่งเขียนโดย Kai-Fu Lee ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อดีตประธานบริษัท Google China ได้พูดถึงผลกระทบของ AI ต่อมนุษย์ในอนาคตและสถานการณ์โลกในปัจจุบันที่สองประเทศมหาอำนาจอย่าง “สหรัฐอเมริกา” และ “จีน” ต่างแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำโลกสมัยใหม่ แม้แต่ วลาดิมีร์ ปูติน ยังเคยกล่าวไว้ว่า ประเทศที่เป็นผู้นำการพัฒนา AI จะกลายเป็น “ผู้ปกครองโลก”


วันนี้เราได้ยกหนังสือเล่มดังกล่าวมาเล่าถึงอิทธิพลของ AI ที่กระจายอยู่ในสังคมและเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างประเทศจีน และปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้จีนมีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว




การผงาดขึ้นของจีน ในฐานะมหาอำนาจด้าน AI กำลังเริ่มขึ้น

ในทศวรรษที่ผ่านมา จีนได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของตัวเองและมีส่วนสำคัญต่อ AI ทั่วโลก ผ่านตัวชี้วัดต่าง ๆ ในงานวิจัย ซึ่งจัดอันดับให้จีนเป็นหนึ่งในสามประเทศชั้นนำสำหรับความก้าวหน้าของ AI  โดยงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พบว่า ในปี 2564 ด้านการลงทุนทางเศรษฐกิจ จีนคิดเป็น 1 ใน 5 ของเงินทุนในการลงทุนภาคเอกชนทั่วโลก โดยดึงดูดกว่า 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน AI


Kai-Fu Lee มองว่าจีนมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จำเป็นเพื่อความสำเร็จทางด้าน AI หลัก ๆ อยู่ 3 ด้าน ได้แก่ คุณภาพและปริมาณของข้อมูล ผู้ประกอบการที่พร้อมต่อสู้และรัฐบาลที่ให้การสนับสนุน

จีนมีข้อมูลที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าในสหรัฐและยุโรปรวมกัน ธุรกรรมทางการเงินทั้งการจ่ายเงินและโอนเงินเป็นที่นิยม รวมไปถึงระบบนิเวศใหม่ของธุรกิจแบบ O2O (Online to Offline) ได้ถือกำเนิดขึ้นในธุรกิจบริการต่าง ๆ เช่น สั่งอาหาร แท็กซี่ ทำให้บริษัทในจีนมีมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ทำทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งมากกว่าสิ่งที่บริษัทในอเมริกาได้รับเกี่ยวกับกิจกรรมของผู้ใช้ทางออนไลน์ ผ่านการแชร์และบทวิจารณ์


ตลาดจีนมีการแข่งขันที่สูง โดยมีการลอกเลียนแบบและกลยุทธ์กึ่งผิดกฎหมายมากมาย รวมไปถึงความต้องการและรสนิยมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอด ทำให้ผู้ประกอบการจีนที่จะประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้ต้องแข็งแกร่งและเตรียมพร้อมพอสมควร


องค์ประกอบสุดท้ายที่สนับสนุนการผงาดขึ้นของจีนในฐานะมหาอำนาจด้าน AI คือการสนับสนุนของรัฐบาลจีนที่มีการลงทุนอย่างหนักเพื่อทำให้จีนเป็นผู้นำด้าน AI ภายในปี 2030 ทำให้เครื่องมือทั้งหมดในทุกระดับของรัฐบาลสนับสนุนให้เป้าหมายนี้สำเร็จ


นอกจากนี้ งานวิจัยของ PwC คาดการณ์การใช้งาน AI จะเพิ่ม GDP โลกได้ถึง 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 โดยคาดว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากจีนถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ McKinsey คาดว่าการใช้งาน AI สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจีนมากกว่า 6 แสนล้านบาทต่อปี จากการใช้งาน AI ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ การขนส่ง การผลิต ซอฟต์แวร์และวิทยาศาสตร์กับการดูแลสุขภาพ


ในทศวรรษที่กำลังจะมาถึง งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า มีโอกาสมหาศาลสำหรับการเติบโตของ AI ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ใครจะก้าวมาเป็นผู้นำโลกในยุค AI ต้องติดตามกันต่อไป



บริษัท ไอเอ็ม อิมพาวเวอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้าน AI Transformation ให้กับเจ้าของธุรกิจมากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เราเคยร่วมงานกับลูกค้าในหลายภาคส่วน ทั้งกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท, การท่องเที่ยว, ทัวร์, คลินิกเสริมความงามชื่อดัง, โรงพยาบาล, แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง และอื่นๆอีกมากมาย

ซึ่งนอกจากการให้คำปรึกษาแล้ว เรายังเป็นผู้พัฒนาโซลูชัน AI ที่ตอบโจทย์และสร้างสรรค์เฉพาะตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย

เรามุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับธุรกิจของคุณ

ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และความรู้ทางด้าน AI ที่ลึกซึ้ง เราพร้อมที่จะเป็นพาร์ทเนอร์คู่คิดและมืออาชีพในการนำธุรกิจของคุณก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพและมั่นคงครับ

ติดต่อเราได้ที่: techlead@imimpowerconsulting.com

หรือนัดปรึกษากับเราว่า AI จะสามารถใช้งานในธุรกิจของคุณได้อย่างไร: https://calendly.com/joeimpower/business-introduction-call

(Book a FREE discovery call with us here!)

-

อ้างอิง

Kai-Fu Lee. AI Super-powers: China, Silicon Valley and the New World. New York: Houghton Mifflin Harcourt. 2018. 253pp.


2 views0 comments
bottom of page